เมทัลชีท หรือ เม็ททอลชีท (Metal Sheet) เป็นวัสดุแผ่นโลหะหรือเหล็กบาง ๆ มีความแข็งแรง เหนียว และทนทาน สามารถนำมาได้ตัด และขึ้นรูปได้ง่าย ทั้งยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในหลายส่วนของอาคาร ซึ่งได้รับความนิยมในการใช้งานจากทั่วโลกมานานนับหลาย 10 ปี โดยเฉพาะในกลุ่มงานโรงงาน โรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หรืออาคารสำเร็จรูปต่างๆที่ต้องการความรวดเร็วในงานก่อสร้าง ต่างนิยมนำประโยชน์ของเมทัลชีทมาใช้ห่อหุ้ม ทั้งส่วนหลังคาและผนังของอาคาร
ส่วนการนำเมทัลชีทมาใช้ในประเทศไทย ระยะแรก ๆ นั้นจะพบเฉพาะในกลุ่มของงานอุตสาหกรรมเช่นกัน และต่อมาเมทัลชีทได้รับความนิยมสูงมาจนถึงยุคปัจจุบัน ซึ่งอาจเรียกได้ว่า เป็นคู่แข่งสำคัญของวัสดุหลังคากระเบื้องก็ว่าได้
ผู้เขียน : อภิสิทธิ์ สุธาประดิษฐ์
ในสมัยก่อนนั้น โดยปกติในเมืองไทย จะนิยม การมุงหลังคาบ้าน ด้วยวัสดุที่หาได้ ไม่ว่าจะเป็น หญ้าคา ใบจาก และอื่น ๆ อีกมากมาย ก่อนที่จะพัฒนามาเป็นหลังคาสังกะสี และหลังคากระเบื้องชนิดต่าง ซึ่งมีบกพร่องเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้น จะเป็นปัญหาหลักคา เมื่อใช้งานนาน ๆ จะมีรอยรั่วซึม และผุกล่อนไปตามกาลเวลา แต่สำหรับการใช้งานหลังคาเมทัลชีท แผ่นเหล็กรีดลอน แล้วนั้นสามารถลดปัญหาลดรอยต่อจากการเชื่อมหลาย ๆ จุดได้ และลดปัญหาการผุกล่อนได้ดีกว่าหลังสังกะสี
แม้ว่าเมทัลชีทจะเป็นวัสดุที่ผลิตจากโลหะ แต่มีคุณสมบัติที่ตรงกันข้าม คือ นำความร้อนได้ดีทำให้การกระจายความร้อนไปทั่วแผ่นหลังคาเมทัลชีล เป็นไปอย่างสม่ำเสมอ และยังสามารถคายความร้อนได้ดีอีกด้วย ซึ่งต่างจากหลังคากระเบื้องที่จะอมความร้อน และหลังคาสังกะสี ที่ดูดและเก็บความร้อนไว้ ซึ่งทำให้ตัวบ้านร้อน
เมทัลชีลเป็นวัสดุโลหะเหล็กแผ่นรีดลอน ที่มีคุณสมบัติ เบา แข็งแรง ทนทาน ซึ่งหมายความว่า เราสามารถทำชายคายื่นออกจากตัวบ้านได้โดยไม่ต้องขึ้นโครงเหล็กขนาดใหญ่ได้ ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองในการก่อสร้างเพิ่มเติม
หลังคาเมทัลชีท สามารถยืดหยุนได้ จุดที่เมทัลชีททำคะแนนได้ดีมากนั่นคือ สามารถออกแบบรูปทรงหลังคาต่ำได้ โดยปกติการใช้หลังคากระเบื้องจะออกแบบองศาความชันของหลังคาซีแพ็คประมาณ 25-40 องศา หรือหากเป็นหลังคาลอนคู่ สามารถออกแบบได้ต่ำลงมาอีกนิด โดยรองรับความชัน 15 องศา แต่นั่นก็ไม่สามารถเทียบกับหลังคาเมทัลชีทได้เลย เพราะสามารถรองรับความชันเพียง 4-5 องศาสำหรับรุ่นธรรมดา และต่ำสุด 2 องศาสำหรับรุ่นที่ออกแบบมาพิเศษ
เหตุผลที่หลังคากระเบื้องไม่สามารถรองรับองศาต่ำได้ เนื่องด้วยกระบวนการติดตั้งที่จำเป็นต้องซ้อนทับกันเป็นชั้น ๆ หากองศาต่ำมากเกินไป กรณีที่ฝนสาดลมแรงจะส่งผลให้น้ำไหลย้อนกลับเป็นเหตุให้น้ำรั่วซึมเข้าบ้าน ส่วนหลังคาเมทัลชีทเป็นแผ่นเดียวกันทั้งผืน จึงไม่เกิดปัญหาเหล่านี้
ด้วยคุณสมบัติพิเศษของหลังคาเมทัลชีล ที่เบา และแข็งแรง ซึ่งจะส่งผลให้ช่วยลดภาระการแบกรับน้ำหนักได้ดี จึงทำให้การก่อสร้างโครง เพื่อรับน้ำหนักหลังคา ไม่จำเป็นต้องใช้วัสดุที่มีราคาสูงมากนัก ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างได้เป็นอย่างดี
การมุงหลังคาด้วยวัสดุเมทัลชีล นั้นค่อยข้างใช้เวลาในการมุงน้อยมาก เนื่องจาก หลังคาเมทัลชีลมีหลายไซส์หลายขนาดให้เลือกใช้ มีทั้งแผ่นเล็ก แผ่นใหญ่ ตามที่ผู้ก่อสร้างต้องการ ลองจิตนาการหากเราใช้แผ่นเมทัลชีลชีทขนาดใหญ่ไม่กี่แผ่นมุงหลังคาบ้าน จะใช้เวลามากน้อยขนาดนั้น แถมยังช่วยลดรอยต่อจากการที่เราใช้แผ่นหลังคาขนาดเล็กมุงหลังคาได้ด้วย ซึ่งเป็นจุดที่อาจเกิดรอยรั่วซึมได้เสมอ
ด้วยวัสดุโลหะที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ และกระบวนการผลิตเมทัลชีทซึ่งเป็นแผ่นเหล็กรีดลอน จึงสามารถรองรับกับการบิดงอได้ แตกต่างจากงานกระเบื้องคอนกรีต ที่ไม่สามารถดัดโค้งได้ คุณสมบัติข้อนี้ ทำให้เกิดวิวัฒนาการด้านดีไซน์ ก่อกำเนินงานสถาปัตยกรรมรูปแบบใหม่ ๆ มากมาย
เมทัลชีท ไม่ได้เป็นเพียงได้แค่หลังคาของบ้านเท่านั้น แต่ยังสามารถเป็นผนังกั้นบ้านได้อีกด้วย หรือใช้ในการตบแต่งรอบนอกตัวบ้านได้อย่างเก๋ไก๋
ด้วยคุณสมบัติทั้ง 8 หัวข้อที่กล่าวมา คือ เมทัลชีล หรือ หลังคาเมทัลชีลนั้น ผลิตจากวัสดุโลหะพิเศษ สามารถบิดโค้งงอได้ตามต้องการ เบา แข็งแรง ทนทาน และราคาถูก จึงเป็นที่นิยมกันในกลุ่มผู้รับเหมางานก่อสร้าง
บริษัท ซี.เอส.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด จำหน่ายแผ่นหลังคาเมทัลชีท (Metal Sheet) โดยมีให้เลือกหลากหลายแบรนด์ ได้แก่ เมทัลชีท CSC (ซี.เอส.ซี) ซึ่งเป็นแผ่นหลังคาเมทัลชีทคุณภาพสูงนำเข้าวัถุดิบจากต่างประเทศ เมทัลชีท BlueScope (บลูสโคป) ซึ่งเป็นแผ่นเมทัลชีทระดับพรีเมี่ยมที่ผลิตโดยเทคโนโลยีจากประเทศออสเตรเลีย และเมทัลชีท SUNSCO (ซันโก) ซึ่งเป็นแผ่นเมทัลชีทคุณภาพสูงโดยบริษัท Maruichi ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น